Hope of Bangkok, individual, will CHANGE for Shining out.

21 กุมภาพันธ์ 2554

Mon 21/2/11... กดว.9:19-23 ชัยชนะแห่งความเชื่อ


19 แม้เมื่อเมฆอยู่เหนือพลับพลานานหลายวัน คนอิสราเอลก็ปฏิบัติตามพระบัญชาของพระเจ้าไม่ยกเดินไป

20 บางทีเมฆอยู่เหนือพลับพลาน้อยวัน ตามพระดำรัสของพระเจ้าเขาก็ยังอยู่ในค่าย แล้วตามพระดำรัสของพระเจ้าเขาก็ยกออกเดินทาง


21 บางทีเมฆคงอยู่ตั้งแต่เย็นจนเช้า ครั้นเมฆลอยขึ้นในตอนเช้าเขาก็ยกออกเดิน หรือถ้าเมฆคงอยู่หนึ่งวันกับหนึ่งคืน เมื่อเมฆลอยขึ้นเขาก็ยกอกเดิน


22 ไม่ว่าเมฆจะคงอยู่เหนือพลับพลาสองวัน หรือเดือนหนึ่ง หรือเวลานานกว่า คนอิสราเอลก็อยู่ในค่ายนานเท่านั้น มิได้ยกออกไปแต่เมื่อเมฆอยขึ้นเมื่อใดเขา ก็ยกออกไปเมื่อนั้น


23 เขาตั้งค่ายอยู่ตามพระดำรัสของพระเจ้า และเขายกออกเดิน ตามพระดำรัสของพระเจ้า เขาทั้งหลายก็ปฏิบัติงานของพระเจ้า ตามพระดำรัสี่พระเจ้าตรัสสั่งโมเสส

16 กุมภาพันธ์ 2554

Wed 16/2/11... กท.1:3-10 ชัยชนะแห่งความเชื่อ

3 ขอให้พระคุณและสันติสุขจากพระบิดาเจ้า และพระเยซูคริสตเจ้าของเรา ดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด

4 พระเยซูทรงสละพระองค์เองเพราะบาปของเราทั้งหลาย เพื่อช่วยเราให้พ้นจากยุคปัจจุบันอันชั่วร้าย ตามน้ำพระทัยพระบิดาเจ้าของเรา

5 ขอให้พระเจ้าทรงมีพระสิริตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน

6 ข้าพเจ้ารู้สึกประหลาดใจ ที่พวกท่านพากันละทิ้งพระองค์ไปอย่างรวดเร็ว พระองค์ทรงเรียกท่านมาโดยพระคุณของพระคริสต์ แต่ท่านกลับันไปหาข่าวประเสริฐอื่นเสีย

7 ความจริงข่าวประเสริฐอื่นไม่มี แต่ว่ามีบางคนที่ทำให้ท่านยุ่งยาก และปรารถนาที่จะบิดเบือนข่าวประเสริฐของพระคริสต์

8 แม้แต่เราเองหรือทูตสวรรค์ ถ้าประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่ท่าน ซึ่งขัดกับข่าวประเสริฐที่เราได้ประกาศแก่ท่านไปแล้วนั้น ก็จะต้องถูกแช่งาป

9 ตามที่เราได้พูดไว้ก่อนแล้ว บัดนี้ข้าพเจ้าพูดอีกว่า ถ้าผู้ใดประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่ท่าน ที่ขัดกับข่าวประเสริฐซึ่งท่านได้รับไว้แล้ว ผู้นั้นะต้องถูกแช่งสาป

10 บัดนี้ข้าพเจ้ากำลังพูดเอาใจมนุษย์หรือ ข้าพเจ้าทำให้เป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้ามิใช่หรือ ข้าพเจ้าอุตส่าห์ประจบประแจงมนุษย์หรือ ถ้า้าพเจ้ากำลังประจบประแจงมนุษย์อยู่ ข้าพเจ้าก็ไม่ใช่ผู้รับใช้ของพระคริสต์

15 กุมภาพันธ์ 2554

Tue 15/2/11... สดด.62 ชัยชนะแห่งความเชื่อ

1 จิตใจของข้าพเจ้าสงบคอยท่าพระเจ้าแต่องค์เดียว ความรอดของข้าพเจ้ามาจากพระองค์

2 พระองค์เท่านั้นทรงเป็นศิลา และเป็นความรอดของข้าพเจ้า เป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหวใหญ่โต

3 พวกเจ้าทุกคนจะโจมตีคนคนเดียว นานสักเท่าใด เพื่อสังหารท่าน ผู้เหมือนกำแพงที่เอนและรั้วที่โยกเยก

4 เขาคิดแต่เพียงจะผลักท่านลงมาจากยศของท่าน เขาพอใจในความเท็จ เขาอวยพรด้วยปากของเขา แต่เขาแช่งอยู่ในใจ

5 จิตใจของข้าพเจ้าสงบคอยท่าพระเจ้าแต่องค์เดียว เพราะความหวังของข้าพเจ้ามาจากพระองค์

6 พระองค์เท่านั้นทรงเป็นศิลาและเป็นความรอดของข้าพเจ้า เป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหว

7 ความช่วยกู้และเกียรติของข้าพเจ้าอยู่ที่พระเจ้า ศิลาอันทรงมหิทธิฤทธิ์และที่ลี้ภัยของข้าพเจ้าคือพระเจ้า

8 ประชาชนเอ๋ย จงวางใจในพระองค์ตลอดเวลา จงระบายความในใจของท่านต่อพระองค์ พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของเรา

9 คนฐานะต่ำก็เป็นเพียงแต่ลมหายใจ คนฐานะสูงก็อนิจจัง เมื่อชั่งดูเขาก็ลอยขึ้น เขารวมด้วยกันยังเบากว่าลมหายใจ

10 อย่าวางใจในการบีบบังคับ อย่าหวังเปล่าด้วยการปล้นสดมภ์ ถ้าความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น อย่าวางใจในสิ่งนั้น

11 พระเจ้าตรัสครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าได้ยินอย่างนี้สองครั้งแล้ว ว่าฤทธานุภาพเป็นของพระเจ้า

12 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า และความรักมั่นคงเป็นของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสนองมนุษย์ ตามการงานของ เขา

14 กุมภาพันธ์ 2554

Mon 14/2/11... 1ยน.4:7 -21 ชัยชนะแห่งความเชื่อ

7 ท่านที่รักทั้งหลาย ขอให้เรารักซึ่งกันและกัน เพราะว่าความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่รักก็บังเกิดมาจากพระเจ้า และรู้จักพระเจ้า

8 ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก

9 โดยข้อนี้ความรักของพระเจ้าก็เป็นที่ประจักษ์แก่เราทั้งหลาย คือพระเจ้าทรงใช้พระบุตรองค์เดียวของพระองค์เข้ามาในโลก เพื่อเราทั้งหลายะได้ดำรงชีวิตโดยพระบุตร

10 ความรักที่ข้าพเจ้าพูดถึงนี้มิใช่ที่เรารักพระเจ้า แต่ที่พระองค์ทรงรักเรา และทรงใช้พระบุตรของพระองค์มาทรงเป็นผู้ลบล้างพระอาชญาที่กกับเราทั้งหลาย เพราะบาปของเรา

11 ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าพระเจ้าทรงรักเราทั้งหลายเช่นนั้น เราก็ควรจะรักซึ่งกันและกันด้วย

12 ไม่มีผู้ใดเคยเห็นพระเจ้า ถ้าเราทั้งหลายรักซึ่งกันและกัน พระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ในเราทั้งหลาย และความรักของพระองค์ก็สมบูรณ์อยู่ในเรา

13 ดังนี้แหละเราทั้งหลายจึงรู้ว่า เราอยู่ในพระองค์และพระองค์ทรงสถิตอยู่ในเรา เพราะพระองค์ได้ทรงโปรดประทานพระวิญญาณของพระงค์เองแก่เรา

14 และเราทั้งหลายได้เห็นและเป็นพยานว่า พระบิดาได้ทรงใช้พระบุตรมาเป็นผู้ช่วยมนุษย์โลกให้รอด

15 ผู้ใดยอมรับว่า พระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระเจ้าก็จะทรงสถิตอยู่ในคนนั้น และคนนั้นอยู่ในพระเจ้า

16 ฉะนั้นเราทั้งหลายจึงรู้ และเชื่อในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงเป็นความรัก และผู้ใดที่อยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้า และระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ในผู้นั้น

17 ในข้อนี้แหละ ความรักของเราจึงสมบูรณ์ เพื่อเราทั้งหลายจะได้มีความมั่นใจในวันพิพากษา เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นเช่นไรเราทั้งหลายนโลกนี้ก็เป็นเช่นนั้น

18 ในความรักนั้นไม่มีความกลัว แต่ความรักที่สมบูรณ์นั้นก็ได้ขจัดความกลัวเสีย เพราะความกลัวเข้ากับการลงโทษและผู้ที่มีความกลัวก็ยังไม่ีความรักที่ สมบูรณ์

19 เราทั้งหลายรัก ก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน

20 ถ้าผู้ใดว่า "ข้าพเจ้ารักพระเจ้า" และใจยังเกลียดชังพี่น้องของตน ผู้นั้นก็เป็นคนพูดมุสา เพราะว่าผู้ที่ไม่รักพี่น้องของตนที่แลเห็นแล้ว จะรักระเจ้าที่ไม่เคยเห็นไม่ได้

21 พระบัญญัตินี้เราทั้งหลายก็ได้มาจากพระองค์ คือว่าให้คนที่รักพระเจ้านั้นรักพี่น้องของตนด้วย

08 กุมภาพันธ์ 2554

Tue 8/2/11... อสย.43:1-13 ชัยชนะแห่งความเชื่อ

1 บัดนี้ พระเจ้าผู้ได้สร้างท่านยาโคบ พระองค์ผู้ได้ทรงปั้นท่าน อิสราเอลตรัสดังนี้ว่า "อย่ากลัวเลย เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว เราได้เรียกเจ้าตามื่อ เจ้าเป็นของเรา

2 เมื่อเจ้าลุยข้ามน้ำ เราจะอยู่กับเจ้า เมื่อข้ามแม่น้ำ น้ำจะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าลุยไฟ เจ้าจะไม่ไหม้ และเปลวเพลิงจะไม่เผาผลาญเจ้า

3 เพราะเราเป็นพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ช่วยให้รอดของเจ้า เราให้อียิปต์เป็นค่าไถ่ของเจ้า ให้เอธิโอเปียและเสาเพื่อแลกกับเจ้า

4 เพราะว่าเจ้าประเสริฐในสายตาของเรา และได้รับเกียรติและเรารักเจ้า เราจึงให้คนเพื่อแลกกับเจ้า ให้ชนชาติทั้งหลายเพื่อแลกกับชีวิตของเจ้า

5 อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า เราจะนำเผ่าพันธุ์ของเจ้ามาจากตะวันออก และเราจะรวบรวมเจ้ามาจากตะวันตก

6 เราจะพูดกับทิศเหนือว่า ปล่อยเถิด และกับทิศใต้ว่า อย่ายึดไว้ จงนำบรรดาบุตรชายของเรามาแต่ไกล และเหล่าธิดาของเราจากปลายแผ่นินโลก

7 คือทุกคนที่เขาเรียกตามชื่อของเรา คือผู้ที่เราได้สร้างเพื่อพระสิริของเรา ผู้ที่เราได้ปั้นและได้กระทำไว้"

8 จงนำประชาชาติทั้งหลายผู้ตาบอดแต่ยังมีตา ผู้ที่หูหนวกแต่เขายังมีหู ออกมา

9 ให้บรรดาประชาชาติประชุมพร้อมกัน และให้ชนชาติทั้งหลายชุมนุมกัน ในท่ามกลางเขามีผู้ที่แจ้งอย่างนี้ได้ และเล่าสิ่งล่วงแล้วให้เราฟังได้ ห้เขาทั้งหลายนำพยานของเขามาพิสูจน์ตัวเขา และให้เขาได้ยินและกล่าวว่าจริงแล้ว

10 พระเจ้าตรัสว่า "เจ้าทั้งหลายเป็นพยานของเรา และเป็นผู้รับใช้ของเราซึ่งเราได้เลือกไว้แล้ว เพื่อเจ้าจะรู้จักและเชื่อถือเรา และเข้าใจว่าเราป็นผู้นั้นแหละ ก่อนหน้าเรา ไม่มีพระใดถูกปั้นขึ้น และภายหลังเราก็จะไม่มี

11 เรา เราคือพระเจ้า และนอกจากเราไม่มีพระเจ้าผู้ช่วยให้รอด

12 เราแจ้งให้ทราบและช่วยให้รอดและเล่าให้ฟัง และก็ไม่มีพระเจ้าอื่นในหมู่พวกเจ้า และเจ้าทั้งหลายเป็นพยานของเรา" พระเจ้าตรัสดังนี้หละ

13 "เราเป็นพระเจ้า มิหนำซ้ำตั้งแต่นี้ไป เราก็เป็นพระองค์นั้นอยู่ ไม่มีผู้ใดช่วยกู้จากมือของเราได้ เราประกอบกิจใดๆ ใครจะขัดขวางกิจการั้นได้"

07 กุมภาพันธ์ 2554

Mon 7/2/11... วว.19:1-9 ชัยชนะแห่งความเชื่อ

1 ต่อจากนี้ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังกึกก้องดุจเสียงฝูงชนจำนวนมากในสวรรค์ร้อง ว่า "อาเลลูยา ความรอด พระสิริ และฤทธิ์เดชจงมีแด่พระเจ้าองเรา

2 เพราะว่าการพิพากษาของพระองค์เที่ยงตรงและยุติธรรม พระองค์ได้ทรงพิพากษาลงโทษหญิงแพศยาคนสำคัญนั้น ที่ได้กระทำให้แผ่นดินลกชั่วไปด้วยการล่วงประเวณีของนาง และพระองค์ได้ทรงแก้แค้นผู้หญิงนั้น เพื่อทดแทนโลหิตแห่งผู้รับใช้ของพระองค์"

3 คนเหล่านั้นร้องอีกเป็นครั้งที่สองว่า "อาเลลูยา ควันไฟที่เกิดจากนครนั้นพลุ่งขึ้นตลอดไปเป็นนิตย์"

4 และพวกผู้ปกครองทั้งยี่สิบสี่คนกับสัตว์ทั้งสี่นั้น ก็ได้ทรุดตัวลงนมัสการพระเจ้าผู้ประทับบนพระที่นั่งนั้น และร้องว่า "อาเมน อาเลลูยา"

5 และมีเสียงออกมาจากพระที่นั่งว่า "ท่านทั้งหลายที่เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ ที่ยำเกรงพระองค์ทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อยจงสรรเสริญพระเจ้าของรา"

6 แล้วข้าพเจ้าได้ยินเสียงดุจเสียงฝูงชนเป็นอันมาก ดุจเสียงน้ำมากหลาย และดุจเสียงฟ้าร้องสนั่นว่า "อาเลลูยา เพราะว่าพระเจ้าของเราผู้ทรงทธานุภาพสูงสุดทรงครอบครองอยู่

7 ขอให้เราทั้งหลายร่าเริงยินดีและเต้นโลดถวายพระเกียรติแด่พระองค์ เพราะถึงเวลามงคลสมรสของพระเมษโปดกแล้ว และเจ้าสาวของพระงค์ได้เตรียมพร้อมแล้ว"

8 ทรงโปรดให้เจ้าสาวสวมผ้าป่านเนื้อละเอียดใสบริสุทธิ์ เพราะผ้าป่านเนื้อดีนั้นได้แก่ การประพฤติอันชอบธรรมของพวกธรรมิกชน"

9 และทูตสวรรค์องค์นั้นสั่งข้าพเจ้าว่า "จงเขียนไว้เถิดว่า ความเจริญสุขมีแก่คนทั้งหลาย ที่ได้รับเชิญมาในการมงคลสมรสของพระเมษโปดก" ละท่านบอกข้าพเจ้าว่า "ถ้อยคำเหล่านั้นเป็นพระวจนะแท้ของพระเจ้า"

04 กุมภาพันธ์ 2554

Fri 4/2/11... อฟ.4:11-16 ชัยชนะแห่งความเชื่อ

11 ของประทานของพระองค์ ก็คือให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิาลและอาจารย์

12 เพื่อเตรียมธรรมิกชนให้เป็นคนที่จะรับใช้ เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ให้จำเริญขึ้น

13 จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อ และในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า จนกว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มี่ คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์

14 เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมาและหันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสั่งสอนทุกอย่าง และด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายลาดอันเป็นการล่อลวง

15 แต่ให้เรายึดความจริงด้วยใจรัก เพื่อจะจำเริญขึ้นทุกอย่างสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะ คือพระคริสต์

16 คือเนื่องจากพระองค์นั้น ร่างกายทั้งสิ้นที่ติดต่อสนิทและประสานกันโดยทุกๆข้อต่อที่ทรงประทาน ได้จำเริญเติบโตขึ้นด้วยความรัก เมื่อวัยวะทุกอย่างทำงานตามความเหมาะสมแล้ว